ตรีเอกานุภาพ THE TRINITY
หัวใจสำคัญของหลักข้อเชื่อสำหรับคริสเตียนหัวข้อใหญ่ๆก็คือในเรื่องของ "ตรีเอกานุภาพ" หรือ ในอีกชื่อเรียกหนึ่งคือ "องค์สาม" ที่แปลว่า สามสภาพแห่งองค์พระผู้เป็นเจ้า"สามสภาพนั้นได้แก่:
สภาพแห่งความเป็นพระเจ้า God The Father
สภาพแห่งความเป็นพระบุตร Jesus; Man and The Only Son of God และ
สภาพแห่งความเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ The Holy Ghost หรือ the Holy Spirit
เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ...พระเจ้ามีกี่องค์กันแน่?
คำตอบคือ #องค์เดียว_แต่เป็น_องค์สาม ....อิอิ... งงเด้...งงเด้... อย่าเพิ่งสับสนงงงวยนะคะ...มาคะจะเล่าให้ฟัง...
GOD พระเจ้า ก็คือพระผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งปวง เป็นพระเจ้าผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุุด เป็นพระเจ้าเที่ยงแท้องค์เดียว พระองค์ทรงเป็นความรัก ทรงรักทุกอย่างที่สร้างรวมทั้งมนุษย์ด้วย ขณะเดียวกันพระเจ้าทรงกอปรด้วยความเที่ยงธรรม บริสุทธิ์ยุติธรรมด้วยเช่นกัน พระเจ้าทรงพิพากษาความผิดบาปของมนุษย์ และต้องลงโทษความผิดนั้น ทว่าด้วยความที่ทรงรักโลกรักมนุษย์ จึงได้ทรงหาทางออกเพื่อกอบกู้มนุษย์ให้รอดพ้นจากความผิดบาป พระองค์จึงทรงลงมา(อวตาน) บังเกิดในสภาพเนื้อหนังมนุษย์ เป็นพระเยซูคริสต์ผู้ซึ่งทรงสภาพเป็นทั้งบุตรพระเจ้าและมนุษย์ในเวลาเดียวกัน
JESUS CHRIST พระเยซูคริสต์ คือ GOD ที่มาเกิดในสภาพมนุษย์และคงไว้ซึ่งความเป็นพระเจ้าในเวลาเดียวกัน เส้นทางชีวิตของพระองค์ได้ถูกกำหนดไว้ให้บริสุทธิ์ปราศจากบาป เพื่อที่พระองค์จะเป็นผู้รับการลงโทษแทนมนุษย์ทั้งปวง เป้าหมายปลายทางของพระองค์คือ ความตายบนไม้กางเขนเพื่อชำระล้างหรือไถ่บาปแทนมนุษย์ จึงถือว่างานของพระองค์สิ้นสุด สามวันให้หลัง พระองค์ทรงเป็นขึ้นจากความตายและทรงดำรงสภาพเป็นพระองค์เฉกเช่นเคยเป็นมาก่อน
HOLYS PIRIT พระวิญญาณบริสุทธิ์ คืออีกภาคของพระเจ้าในสภาพวิญญาณ ทรงเป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ ซึ่งสามารถประทับอยู่ในชีวิตจิตใจของผู้ศรัทธาในพระเจ้า เชื่อในการไถ่บาปของพระเยซู และยอมรับไว้ซึ่งพระวิญญาณของพระองค์ให้ประทับในชีวิตตน
พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำหน้าที่ช่วยฝ่ายวิญญาณ ช่วยให้คริสเตียนเข้าใจเรื่องราวฝ่ายวิญญาณ ความล้ำลึกในคำสั่งสอน การเข้าใจนิมิต และการเปิดเผยต่างๆ
พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นสัญลักษณ์ความรอดของผู้ศรัทธา เมื่อพระเจ้าทอดพระเนตรผู้เชื่อ ทรงเห็นพระวิญญาณบริสุทธิ์แทนที่ความบาปของมนุษย์
ในสมัยก่อนคริสตกาล พระเจ้าทรงเสด็จมาหามนุษย์ และตรัสกับมนุษย์โดยตรง อย่างไรก็ตามไม่เคยมีใครสามารถมองดูพระพักตร์ของพระองค์ได้ด้วยตาเปล่าแม้กระทั่งโมเสสเพราะพระสิริและความบริสุทธิ์ของพระองค์ หลายคนคงเคยได้ยินเรื่อง "หีบแห่งพันธสัญญา" และ "พลับพลา" นั่นก็คือเรื่องราวในสมัยก่อนคริสตกาล ที่สุดๆ แล้วมนุษย์สามารถสื่อสารกับพระเจ้าได้ผ่านทางตัวแทนคือปุโรหิตและปุโรหิตจะเข้าไปในพลับพลาหรือเต้นท์นัดพบ และเข้าไปถึงห้องชั้นใน (วิสุทธสถาน)โดยปุโรหิตสูงสุดคนเดียวเท่านั้น ขณะเดียวกัน ปุโรหิตจะทำหน้าที่ล้างบาปให้กับมนุษย์โดยการ ถวายเครื่องสัตวบูชา เช่น ลูกแกะ แพะ นกพิราบ โค เหล่านี้เป็นต้นต่อมาในสมัยคริสตกาล พระเยซูคริสต์ทรงดำเนินและประทับอยู่ท่ามกลางมนุษย์ สั่งสอนเหล่าสาวกและผู้ติดตามพระองค์ พระเยซูคริสต์ผู้ทรงเป็นปุโรหิตสูงสุดและทรงเป็น "ลูกแกะ" ของพระเจ้าได้ถวายตนเองเป็น "เครื่องบูชาเพื่อล้างหรือไถ่บาปให้กับมวลมนุษยชาติ" (ในอนาคตจะเขียนเรื่อง "ปุโรหิต"นะคะ สนุกมากๆ ^^")
ยุคปัจจุบัน โดยพระคุณของพระเจ้า และโดยทางความเชื่อเราทุกคนสามารถกลับไปหาพระเจ้าได้ด้วยการศรัทธาเชื่อมั่นในการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนของพระองค์เพื่อไถ่บาปเรา และต้อนรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ไว้ในชีวิตตนเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรอดและเป็นพระสติปัญญาให้กับตนในการดำเนินชีวิต
นั่นหมายความว่า ในทุกวันนี้พระเจ้ามิได้แค่ตรัส หรืออยู่ท่ามกลางเราแต่ ทรงสามารถประทับอยู่ในชีวิตของเราทุกคนที่เชื่อได้ด้วย เป็นเหตุผลทำไมคริสเตียนสรรเสริญพระเจ้าพระบิดา ขอบคุณพระเยซู และดำเนินชีวิตนิรันดร์ (เรื่องถัดไปที่ต้องเขียนเลย^^" )โดยมีพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้ชี้นำแนวทาง จนกว่าวันที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จกลับมา และพระเจ้าจะทรงพิพากษาโลก ส่วนเราผู้เชื่อจะได้กลับบ้านที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้ให้เรา
นึกถึงท่อนจบของเพลง Holy Holy Holy (สรรเสริญ สรรเสริญ สรรเสริญ) ที่ว่า "God in Three Persons...blessed Trinity ... ปรากฏเป็นสามนั่นคือพระเจ้าเดียวกัน"
Photo Credits: PINTEREST
by TKReflection