BY GRACE THROUGH FAITH
โดยพระคุณทางความเชื่อศรัทธา
เชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินประโยคนี้อยู่บ้าง "โดยพระคุณและความเชื่อ"แต่คุณเคยสงสัยบ้างมั๊ยว่า "โดยพระคุณ" นั้น พระคุณอะไร และทาง"ความเชื่อศรัทธา" นั้นกำลังพูดถึง ความเชื่ออะไร?
วลีนี้มาจากพระธรรมข้อหนึ่งในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล เล่มหนังสือเอเฟซัสบทที่ 2 ข้อที่ 8 วรรคแรกกล่าวว่า
เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ
พระคุณ "GRACE"
คำว่าพระคุณนี้เป็นคำที่เราๆ ท่านๆ ได้ยินมานานทั้งในภาษาไทยและภาษาอังกฤษหลายครั้งปรากฏอยู่ในบทเพลง และคำอวยพรต่างๆ เช่น เพลง พระคุณพระเจ้า Amazing Graceที่โด่งดังและยังมีการนำมาขับร้องอยู่ตลอดเวลา
"พระคุณ" ในที่นี้หมายถึง พระคุณของพระเจ้าที่ประทานให้กับมนุษยชาติผ่านทางพระเยซูคริสต์
โดยมีจุดประสงค์เพื่อ"ช่วยมวลมนุษยชาติให้รอดจากบาปและการถูกพิพากษาโทษ" (มีข้อพระคำบันทึกไว้ในเล่มพระธรรมโรม บทที่ 6 ข้อ 23 วรรคแรกว่า "เพราะว่าค่าจ้างของความบาป คือ ความตาย"
ทำไมเราจะต้องรับ "พระคุณพระเจ้า" ด้วยหล่ะ?
ในพระธรรมโรม3:23 บันทึกว่า "เพราะว่าทุกคน ทำบาป และ เสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า...." เอาแบบภาพกว้างๆก็เริ่มจากมนุษย์คู่แรก เอาวากับอาดัมที่ทำบาปผ่าฝืนคำสั่งที่พระเจ้าทรงกำชับไว้จากนั้นมรดกบาปก็ตกทอดมาเรื่อยๆ จนถึงเรานี่แหละค่ะ(เล่าแบบย่อลงมาตั้งแต่พระเจ้าสร้างโลกกันเลย ^^") และตามที่เกริ่นไว้ก่อนหน้า ว่า"ผล" หรือ "ค่าจ้าง" ของความบาปก็คือความตาย ....งานเข้าแล้วทีนี้ นั่นย่อมหมายความว่ามนุษย์ทุกคนที่ทำบาปก็ต้อง"ตายแบบที่พระเจ้าทรงพิพากษา" แน่นอน เพราะเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะมีใครไม่ทำบาป
"บาป" ในที่นี้หมายถึง "แค่คิดจะทำก็บาปแล้วคะ" ดังนั้นบาปนี้รวมถึง ความคิด การกระทำ และคำพูดที่เป็นบาป ถึงได้บอกว่า งานเข้าเต็มๆ เอาเข้าจริงๆก็ไม่มีมนุษย์คนไหนรอดพ้นจากคำพิพากษาของพระเจ้าแน่นอน
"ความตาย"ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการหมดลมหายใจของร่างกายที่เราอาศัยอยู่นี้เท่านั้นนะแต่กำลังหมายถึงการ "เป็นอยู่ของจิตวิญญาณของเราในนรกภูมิที่เป็นนิรันดร์กาลด้วยซึ่งก็หมายความว่าตกนรกหมกไหม้อยู่สืบไปไม่มีการพักแต่ถูกลงโทษทรมานเผาผลาญอยู่เป็นนิจ"
แต่ด้วยความที่พระเจ้าทรงรักมนุษย์ที่พระองค์ทรงสร้างมีบันทึกไว้ในพระธรรมเล่มยอห์น บทที่ 3 ข้อ 16 วรรคแรก ว่า "เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลกจนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์…" พระองค์ทรงต้องเตรียม หนทาง เพื่อให้มนุษยชาติได้รอดพระองค์ทรงส่งพระบุตรองค์เดียวของพระองค์คือพระเยซูมาบังเกิดในเนื้อหนังมนุษย์(แท้จริงพระเจ้า พระเยซู และพระวิญญาณบริสุทธิ์คือองค์เดียวกัน เรื่องนี้จะเขียนแยกต่างหากเกี่ยวกับ"ตรีเอกานุภาพ" โดยเฉพาะนะคะ)
"พระเยซู" คือแผนการช่วยเหลือมนุษย์ให้รอดพ้นจากคำพิพากษาบาป...เอ๊ะ ..อะไร? ยังไงกัน?
แผนการนี้จะสำเร็จได้โดยมีเงื่อนไขว่า พระเยซูต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์ในเนื้อหนังสภาพเดียวกันกับมนุษย์แต่ต้องดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์ปราศจากบาป ไม่ว่าจะเป็นบาปทางความคิด การกระทำหรือคำพูด พระองค์ต้องบริสุทธิ์ไม่กระทำความบาปใดๆ เลยและสุดท้ายต้องยอมรับความตายบนไม้กางเขนแทนมนุษย์"
ขึ้นชื่อว่าโลกมนุษย์ที่กำลังเสื่อมลงจากพระสิริของพระเจ้าตลอดเวลาเสื่อมลงจากเจตนาแรกที่พระองค์ทรงสร้างไว้ให้เราอย่างงดงาม นั่นหมายความว่าพระเยซูในสภาพเนื้อหนังมนุษย์เองก็ต้องเผชิญหน้ากับการท้าทายการทดลองต่างๆ ที่มนุษย์อย่างเราๆท่านๆ ได้เผชิญ
พื้นๆเลยก็ความหิว กระหาย ความสะดวกสบายหรือไม่ก็ความยากลำบาก การถูกล่อลวงด้วยกิเลสตัณหาของการอยากมีอยากได้ อยากครอบครอง อยากชนะ อยากยิ่งใหญ่มีอำนาจ อยากมั่งคั่ง อยากดังอยากได้รับการปรนนิบัติ...โอ้ย เขียนไม่หมด เอาเป็นว่าคุณผู้อ่านช่วยสนุกคิดต่อเลยว่ามนุษย์อยากอะไรอีก.....
นอกเหนือจากการล่อลวงแล้วยังมีเรื่องของ ความเจ็บปวด ความอ้างว้างโดดเดี่ยว การถูกปฏิเสธ การถูกข่มเหงรังแกการโดนดูถูกเหยียดหยาม การถูกทรยศ การโดนเข้าใจผิด การถูกประณาม ถูกซุบซิบนินทาแม้กระทั่ง การล่วงละเมิดทางเพศ (ทรงโดนประจาน โดนเปลื้องอาภรณ์ที่บนไม้กางเขน) พระเยซูผ่านสถานการณ์ทั้งปวงเหล่านี้ "เพื่อเรา" ตรงนี้เชื่อได้เลยคะว่าไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นกับเราที่พระเยซูไม่ทรงเข้าใจ ทรงประสบกับสิ่งเหล่านี้หมดทุกทาง ร่างกาย จิตใจ และ จิตวิญญาณ แต่โดยที่พระองค์ทรงเป็นพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณพระองค์เข้มแข็ง ไม่มีสักครั้งที่พระองค์จะตอบสนองสิ่งเหล่านี้ด้วยความคิดการกระทำ หรือวาจาที่เป็นบาป พูดง่ายๆนะคือ "พระองค์ไม่เคยบ่นเลย" แต่ยอมจำนนจนกระทั่ง "ความตายบนไม้กางเขน"
กระชับเรื่องเข้ามา ไคลแมกซ์อยู่ที่ "การสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน" ที่ซาตานคิดว่ากำลังชนะและทำลายพระองค์ได้แต่แท้จริงแล้วเป็น "จุดเริ่มต้นของชัยชนะชั่วนิรันดร์ของพระเจ้าและการพ่ายแพ้ราบคาบของลูซิเฟอร์" สงครามครั้งนี้เป็นกระดานของพระเจ้า กับ ซาตาน มีพระเยซูเป็นกลยุทธ์ในการเอาชนะ โดยมีมนุษยชาติเป็นเดิมพัน
พระคัมภีร์ไบเบิ้ลได้บันทึก การคลายปมปัญหาบาปของมนุษย์ไว้ในวรรคที่สองของแต่ละข้อที่ยกมาดังนี้คะ:
สถานการณ์
โรม 3:23 "เพราะว่าทุกคนทำบาปและเสื่อมจากพระสิริของพระเจ้า"
เงื่อนไข
โรม 6:23 "เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา"
ที่มาของพระคุณ
ยอห์น 3:16"เพราะว่าพระเจ้าทรงรักโลก จนได้ประทานพระบุตรองค์เดียวของพระองค์เพื่อทุกคนที่เชื่อในพระบุตรนั้นจะไม่พินาศแต่มีชีวิตนิรันดร์"
และคำอธิบายเพิ่มเติมพบได้ในวรรคสองจากข้อนางเอกที่ได้ยกมาตอนแรกเลย คือ
เอเฟซัส 2:8-9 "เพราะว่าท่านทั้งหลายได้รับความรอดแล้วด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ ความรอดนี้ไม่ใช่มาจากตัวท่านแต่เป็นของประทานจากพระเจ้า ไม่ใช่มาจากการกระทำเพื่อไม่ให้ใครอวดได้ "
ดูเหมือนว่ามีอีกหนึ่งคำที่เป็นกุญแจสำคัญในการอธิบายความเรื่องนี้ "ของประทานจากพระเจ้า"
"ของประทานจากพระเจ้าหรือ The Gift from God" คือของขวัญที่มอบให้กับเรา ของขวัญคือสิ่งที่ได้รับมาโดยความรักเสน่หาไม่ใช่ซื้อหามาด้วยตัวเอง ของขวัญที่พระเจ้ามอบให้ เป็นของขวัญที่เราไม่คู่ควรเป็นของขวัญที่ขัดแย้งกับผลการกระทำที่เราควรได้รับ พระองค์มอบ ความรอด ความรักและชีวิตนิรันดร์ในสวรรค์ให้กับเรา
ความเชื่อ FAITH
ทุกคนที่เชื่อในพระเยซูคริสต์ที่ยอมรับว่าพระองค์คือแผนการแห่งความรอดที่พระเจ้าเตรียมให้กับเรา พระเยซูทรงเป็น "ทางนั้น" ให้เรากลับไปหาพระเจ้าได้ ทรงเป็น "ความจริง"ที่มาขับไล่การโกหกหลอกล่อของผีมารซาตานและปลดปล่อยเราให้เป็นไท และทรงเป็น"ความรัก" ที่ยอมตายแทนเราเพื่อเรา
พระเจ้าทรงมอบของขวัญให้เราไม่ใช่ขึ้นอยู่ที่เราผู้ที่ดีพอหรือสมควรได้รับของขวัญนั้นแต่พระองค์ทรงให้เพระพระองค์เอง ความรักของพระเจ้าขึ้นอยู่กับพระเจ้า พระองค์ทรงเลือกที่จะรักเราและมอบพระเยซูให้เป็นของขวัญแก่เราทุกคนที่ศรัทธาในพระเยซู พระผู้ทรงช่วยเราให้รอดพ้นจากความบาป
บนไม้กางเขน พระเจ้าทรงประทับบนบัลลังก์พิพากษาบาปผิดของมนุษย์
พระเยซู ในฐานะมนุษย์ที่ไม่เคยทำความผิดบาปเลย ยอมแบกรับการลงโทษนั้นไว้ที่พระองค์ เพื่อแลก(เพื่อไถ่)กับความรอดฝ่ายวิญญาณของมนุษย์
พระองค์ทำสำเร็จ ซาตานไม่มีสิทธิ์เหนือมนุษย์แล้วนะคะ โปรดทราบ ซาตานไม่มีสิทธิเหนือ"มนุษย์ทุกคนที่วางใจและเชื่อในพระเยซู" ดังที่ได้กล่าวแต่แรกว่า "ด้วยพระคุณโดยทางความเชื่อ"
"ด้วยพระคุณของพระเจ้า โดยการมีความเชื่อมั่นศรัทธาในพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระองค์" เราจึงได้รอดพ้นจากความผิดบาปและมีชีวิตฝ่ายวิญญาณที่เป็นนิรันดร์อยู่ในอาณาจักรของพระองค์ตลอดไป
PhotoCredits: PINTEREST
By: TKReflection