27 Sep
27Sep

จริงหรือที่ว่า เวลารักษาทุกสิ่ง?

คงไม่มีใครปฏิเสธอีกต่อไปแล้วว่า โลกกำลังปั่นป่วนผันผวนไปทั่วทุกทิศทาง มีภัยพิบัติต่างๆ เกิดขึ้นทุกหัวระแหง แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด พายุ ไฟป่า โคลนถล่ม คลื่นยักษ์ น้ำท่วม…  นี่ยังไม่ได้กล่าวถึงการทำลายล้างกันเองระหว่างมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการก่อสงคราม การก่อการร้าย การวิวาทฆาตกรรม การค้ามนุษย์ในรูปแบบต่างๆและแม้กระทั่งภัยอันตรายอันเกิดจากความมักง่ายเห็นแก่ตัวของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเช่นมลภาวะเป็นพิษทางน้ำ ทางบก หรือทางอากาศ ที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรมธุรกิจหรือการค้าขายที่มีการกลั่นแกล้งชิงดีชิงเด่นกันจนขาดความยั้งคิดแล้วนำไปสู่การทำลายผู้อื่นให้เจ็บปวดเสียหาย ถึงทรัพย์สินและชีวิตกันเลยก็มี

ทั้งหมดที่กล่าวมานับเป็นต้นเหตุแห่งการสูญเสียความเจ็บปวด และภาระอันหนักหน่วงในทุกทางไม่ว่าจะทางด้านทรัพย์สิน ร่างกาย จิตใจและ ลึกถึงจิตวิญญาณ

สิ่งที่น่าตกใจสูงสุด คือเมื่อสังเกตได้ว่า "มนุษย์" สามารถเป็นต้นเหตุแห่งการสร้างความเสียหายและทำลายล้างมากที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับปัจจัยเหตุอื่นๆ ดังที่ได้เกริ่นไว้ข้างต้น


จะเกิดอะไรขึ้นกับมนุษย์บ้างเมื่อมีภัยพิบัติ หรือถูกทำร้ายจากมนุษย์ด้วยกันเอง?

 แน่นอนว่าเมื่อมีภัยพิบัติไม่ว่าจะทางธรรมชาติหรือเป็นผลที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์ก็ตาม ย่อมต้องเกิด "ผลลัพธ์ทันที" และ"ผลกระทบที่ตามมา" อย่างต่อเนื่องในภายหลัง มาดูภาพเปรียบเทียบกันคะ

 ภัยพิบัติทางธรรมชาติ                               

                   เสียทรัพย์

                   เสียชิวิต บาดเจ็บ / ทุพพลภาพ

                   บาดแผลทางใจ

                   บาดแผลทางจิตวิญญาณ 

ภัยจากน้ำมือมนุษย์                               

                   เสียทรัพย์

                   เสียชิวิต บาดเจ็บ / ทุพพลภาพ

                   บาดแผลทางใจ

                   บาดแผลทางจิตวิญญาณ                                

จะสังเกตได้ว่าผลกระทบที่ได้รับมีความคล้ายคลึงใกล้เคียงกันมาก อย่างไรก็ตามเมื่อเราทำความเข้าใจลึกซึ้งลงไปจะทำให้มองเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนมากขึ้น(เรื่องนี้ เล่ายาวเป็นซีรี่ส์แน่ๆ คะ)

ตัวอย่างเช่นภาคใต้ของประเทศไทยที่ประสบกับคลื่นยักษ์ Tsunami ถาโถมเข้าใส่ในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ส่งผลให้ 6จังหวัดภาคใต้ที่มีพื้นที่ติดกับฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง และสตูล) ได้รับความเสียหาย สูญเสียทรัพย์สิน สิ่งปลูกสร้างสังหา-อสังหาริมทรัพย์ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคประเมินมูลค่ามหาศาลกว่า 1,000 ล้านบาท มียอดรวมชาวบ้านท้องถิ่นและนักทองเที่ยวเสียชีวิต ยืนยันกว่า 5,400 คน บาดเจ็บ อีกกว่า 8,000 คน(ไม่รวมผู้สูญหายอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถคาดคะเนได้) เหตุการณ์นี้ไม่เพียงส่งผลกระทบทางกายภาพแต่ยังสร้างความหวาดระแวงหวาดกลัวให้กับทั้งผู้รอดชีวิตและครอบครัวของเขารวมทั้งครอบครัวของผู้สูญเสียอีกมากมายต่อเนื่องยาวนานเกินสิบปีและหลายคนยังคงอยู่ในกระบวนการเยียวยารักษาบาดแผลทางอารมณ์และจิตใจ นี้ต่อไป ในบางกรณีถึงกับก่อให้เกิดความไม่ไว้วางใจ เสื่อมศรัทธาและเกลียดชังศาสนาหรือรูปเคารพที่เคยกราบไหว้บูชา เป็นบาดแผลทางความเชื่อ เกิดการแตกหักในกระบวนความคิดความรู้สึกที่ กระทบถึงแนวทางแห่งจิตวิญญาณ ของบุคคลนั้นๆ กันเลยก็มี จะเห็นว่า "ความเสียหายทันที " นั้นนับว่ามีมูลค่าเสียหายที่นับได้มากมายแล้ว ทว่า "ความเสียหายที่ส่งผลกระทบต่อเนื่อง" ที่ตามมาในภายหลังเมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้ว ย่อมมีมูลค่าความเสียหายที่มากกว่า คิดจากชีวิตที่อยู่ในกระบวนการรักษา เยียวยา ฟื้นฟู,เวลาที่ทุ่มเทให้กับการฟื้นฟูสภาพร่างการและจิตใจ รวมถึงค่าใช้จ่ายตลอดทั้งกระบวนการที่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนในการ"ทำให้หายดี" ดั่งเดิมได้

กรณีเปรียบเทียบความเสียหายที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์

ตัวอย่างเช่นนักศึกษาสาวไปหาหมอดู และถูกล่วงละเมิดทางเพศจนถึงแก่ความตาย ผู้ร้ายนำศพไปวางทิ้งไว้ที่คันนา

เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเป็นข่าวครึกโครมเมื่อไม่นานมานี้ ในกรณีนี้ มีเหยื่อผู้ถูกกระทำ และผู้กระทำ แน่นอนว่าความสูญเสียจากการถูกทำร้ายครั้งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นทันทีคือ นศ.สาวเสียชิวิต หมอดูผู้กระทำถูกรวบตัวติดคุก หมดอนาคต เพราะทางเลือกของตัวเองผลเสียหายที่ตามมาคือ บาดแผลในใจของครอบครัวนักศึกษาสาว ความสงสัยคำถามที่ไม่ได้รับคำตอบความรู้สึกที่ค้างคาไม่ได้รับการปิดฉากหรือกล่าวคำอำลาที่แท้จริง สิ่งนี้ส่งผลกระทบต่อภาวะทางความคิดอารมณ์ความรู้สึก และจิตใจ เป็นสภาพที่ต้องได้รับการปลอบโยน บำบัดรักษา การลงทุนเพื่ออนาคตของลูกที่ดับวูบสูญเปล่าไป   และไม่แน่ว่า ลึกๆในจิตวิญญาณของครอบครัวนี้อาจต้องต่อสู้กับการเคียดแค้นชิงชังหรือการให้อภัย ต่อทางเลือกของนักศึกษาสาวฆาตกร และหรืออาจจะลึกไปถึงความรู้สึกผิดข้างในหากตนเองเคยมีส่วนร่วมหรือชี้แนะทางเลือกดังกล่าว(ดูหมอ ทำเสน่ห์ หรือไสยศาสน์) แก่ผู้เสียชีวิต ในทำนองเดียวกัน หมอดูวัยรุ่นคนนั้นก็ติดคุก หมดอนาคต กลายเป็นฆาตกรเพราะตัณหาและการตัดสินใจ ครอบครัวของฆาตกรเอง โดยเฉพาะ พ่อแม่ พี่น้องคนในครอบครัวก็ต้องตกอยู่ในวังวนของบาดแผนทางใจ ทางจิตวิญญาณไม่น้อยไปกว่าครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิตเลย

คำถาม   ยกเรื่องราวทั้งสองนี้มาเล่าเพื่อ?

เพื่อจะแสดงให้เห็นว่า "คำว่าเวลารักษาทุกสิ่ง"นั้นเป็นแค่สมมุติฐาน และมันไม่ถูกต้องเป็นจริงเสมอไป เมื่อใดที่มีการสูญเสีย การถูกทำร้ายย่อมต้องเกิดผลกระทบตามมาอีกเพียบมากกว่าแค่การสูญเสียเบื้องต้น และ "บาดแผล" ที่ตามมานี่แหละคือการสูญเสียชั้นสำคัญที่ต้องได้รับการเอาใจใส่ ดูแล รักษาอย่างจริงจัง ไม่ควร รอ และ เชื่อว่า "เวลารักษาทุกสิ่ง"

 เวลา กับ การรักษาบาดแผล (ทางกาย จิตใจ และวิญญาณ)

 บาดแผลทางกาย ต้องได้รับการทำความสะอาดใส่ยา พันบาดแผลเพื่อรักษา "รอเวลาให้แผลสมาน" ในที่นี้ "เวลา" คือส่วนผสมของการรักษาซึ่งได้แก่ น้ำยาล้างแผล ยารักษาแผล ผ้าพันกันแผลติดเชื้อ เวลาให้ยาทำงาน และเวลาให้แผลตอบสนอง และเมื่อส่วนผสมลงตัวแผลสามารถหายได้และอาจทิ้งไว้เพียงรอยแผลเป็นที่ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใดๆเพราะการรักษาเสร็จสิ้นสมบูรณ์

 ฉันท์ใดฉันท์นั้น บาดแผลทางใจ และ จิตวิญญาณ ต้องได้รับการชำระ(ชำระจิตใจให้อยู่ในทางที่ถูกต้อง บริสุทธิ์ เต็มด้วยความรักและการให้อภัย) ส่วนผสมของการรักษาก็คือ แนวทางความเชื่อ ศรัทธาและคำสั่งสอนที่สามารถขัดเกลาชำระจิตใจให้ใสสะอาดแข็งแรงไม่หม่นหมองมัวหรือจมดิ่งอยู่ในหุบเหวแห่งการสูญเสียที่เกิด 

ยารักษาแผลใจ คือการยอมรับสัจจะธรรมและความจริง ผ้าพันแผลใจคือการพาตัวเองไปอยู่ในคำปลอบโยน กำลังใจ และคำอวยพร และส่วนผสมสุดท้ายคือ เวลาที่ต้องมีให้กับใจตนเองได้เดินผ่านการโศกเศร้า การทำใจ การรักษาใจ การรับกำลังใจการสร้างพลังให้กับใจ และการฟื้นฟูลุกขึ้นใหม่ของใจ"

 เห็นมั๊ยค่ะ "เวลา ไม่ใช่ผู้รักษาเวลาไม่ได้รักษาทุกสิ่ง" ทว่า "เวลา เป็นส่วนผสมสำคัญในกระบวนการบำบัดเยียวยาและ รักษา"

 ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตัวอย่างที่ยกมานี้ ต่างต้องได้รับการดูแลรักษาที่มากว่าการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ และร่างกายแต่สิ่งที่สำคัญมากไม่แพ้สิ่งอื่นใดและหรืออาจสำคัญมากที่สุดสำหรับพวกเขาก็คือ"การเยียวยารักษาบาดแผลในจิตใจและจิตวิญญาณ" ซึ่งต้องใช้ส่วนผสมของหลายสิ่งรวมถึง"เวลา" เพื่อให้กระบวนการรักษาสำเร็จและเกิดผลได้อย่างแท้จริงต่อไป

 คำถามที่ต้องค้นหาต่อไปคือ:

                        อะไรคือสัจจะธรรมและความจริงสำหรับตน?

                        ขณะนี้ตนเองกำลังอยู่จุดไหน?สูญเสียอะไรบ้าง?

                        มีบาดแผลที่ต้องรักษาตรงไหนบ้าง?

 อย่ากลัวที่จะบอกกับผู้ที่ไว้ใจได้และร้องขอความช่วยเหลือนะคะ


Photo Credits:  PINTEREST

by TKReflection

Comments
* The email will not be published on the website.
I BUILT MY SITE FOR FREE USING